Sundance 2019: Apollo 11 | ย้อนความระทึกปฏิบัติการเหยียบดวงจันทร์
APOLLO 11
(Todd Douglas Miller)
Sundance Film Festival 2019 : U.S. Documentaries
16 กรกฎาคม ค.ศ. 1969
ปฏิบัติการส่วนหนึ่งในโครงการอะพอลโลความปราถนาสำคัญของประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ
‘John F. Kenedy’ ส่อเค้าลางความเป็นจริงที่จะให้มนุษย์เดินทางไปเหยียบดวงจันทร์
ปฏิบัติการอะพอลโล 11 ใช้เวลากว่า 8
วันจึงเสร็จลุล่วงสมบูรณ์ มันกลายเป็นก้าวเล็กๆก้าวหนึ่งของชายคนหนึ่ง
แต่เป็นก้าวใหญ่ที่สำคัญของมนุษยชาติ ล่าสุดประเทศจีนที่พยายามพัฒนาวงการเทคโนโลยีอวกาศให้ก้าวหน้าก็ประกาศว่าจะเอายานลงจอดบนดวงจันทร์ด้านไกลในเวลาอีกไม่ถึงทศวรรษในตำแหน่งที่ยังไม่เคยมีใครไปมาก่อน
ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นการประมวลภาพปฏิบัติการตัดต่อด้วยความระทึกขวัญตื่นเต้นเหมือนผู้ชมไม่เคยทราบเรื่องราวตรงนี้มาก่อน
ซึ่งเรื่องราวตรงนี้ทุกคนนั้นล้วนทราบกันดีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องของแง่มุมในเชิงปฏิบัติการ
หรือแง่มุมในเชิงการเมืองที่ตลกผลึกมาหลายทศวรรษแล้ว มันจึงเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างยากที่จะทำยังไงให้เรื่องราวที่ถูกเล่าจนแทบหมดแล้วสามารถสร้างความดึงดูดกับผู้ชมได้อีก
ความน่าชื่นชมของหนังเรื่องนี้ที่ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังสารคดีชั้นยอดนั่นก็คือ
การลำดับเรื่องราว การลำดับภาพที่สามารถสร้างเรื่องราวสื่อสารกับผู้ชมออกมาได้อย่างเข้มข้น
เหมือนกับเราเองยังคงลุ้นระทึกกับปฏิบัติการระดับมนุษยชาติเรื่องนี้อยู่
หนังสารคดีเรื่องนี้เป็นสารคดีที่สโคปการเล่าเรื่องอยู่กับปฏิบัติการนับตั้งแต่วันแรกๆที่มีการเตรียมตัวยิงจรวดจากแหลมเคเนดี้
รัฐฟลอริด้า หนังผสมภาพฟุตเตจจริงจากหลายๆสื่อเข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้การถ่ายทอดความรู้สึกเกี่ยวกับปฏิบัติการเต็มไปด้วยความสมจริง
การตัดเล่าเรื่องที่ชาญฉลาดในการเร้าอารมณ์คนดู ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวเลขเวลาบนหน้าจอ
ตัวเลขระยะก่อนที่ยานจะถึงพื้น หรือการตัดกับภาพของผู้คนที่เฝ้ารอด้วยความตื้นเต้น
และความหวังที่มีต่อปฏิบัติการนี้ ดังนั้นจะเห็นว่าการวางทิศทางของหนังสารคดีเรื่องนี้นั้นมีความชัดเจนค่อนข้างมาก
และมันเสริมกันไปในทิศทางเดียว
ทำให้ความเร้าที่สร้างกับผู้ชมสามารถพัฒนาตัวเองออกมาได้อย่างประสบผลสำเร็จจากการควบคุมทิศทาง
อารมณ์ ตลอดจนควบคุมบรรยากาศของเรื่องเดินไปในโทนอารมณ์เดียวกัน อย่างไรก็ดี
ในความยากจากการที่หลายคนทราบบทสรุปของเหตุการณ์ดีอยู่แล้ว หนังเองเลือกที่จะไปขยับขยายส่วนที่ผู้ชมโดยทั่วไปรู้น้อยที่สุด
ทั้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นในขณะบินรอบดวงจันทร์
หรือแม้แต่ปฏิบัติการที่เกิดขึ้นบนภาคพื้น
ซึ่งขยายให้ชัดเจนในรายละเอียดอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น
ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดในเชิงของตัวเลข หรือเชิงสถานการณ์ที่ค่อนข้างเป็นความจำเพาะของสถานการณ์ที่ไม่ได้สาธารณะเหมือนภาพข่าวนัก
และดึงความคุ้นชินจากภาพข่าวแทน
การวางน้ำหนักของเหตุการณ์ในหนังในการให้ความสำคัญกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
สร้างเรื่องราวที่มีความเจาะลึกมากยิ่งขึ้น
ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วมันก็ยังเป็นภาพที่ผิวเผินอยู่เหมือนกัน
เพียงแต่หนังแสร้งให้ดูเหมือนมันมีความเจาะลึกมากยิ่งขึ้น
เพราะฉะนั้นเมื่อน้ำหนักของสิ่งตรงนี้มีค่อนข้างมาก
ภาพของความรู้สึกที่ผู้ชมเอาตัวเองไปปะทะกับสสารที่ไม่คุ้นชินนั้นจึงเกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น
จะเห็นว่าหนังเองเลือกที่จะตัดเอาช่วงของการเร้าด้วยการนับถอยหลังในการทำสิ่งต่างๆออกมาค่อนข้างบ่อย
ซึ่งมันทำให้หนังเองมีลักษณะของสารคดีปฏิบัติการที่เน้นการช่วงชิงห้วงของความระทึกของผู้ชมจากการที่มันเลือกวิธีการนำเสนอ
เลือกช่วงของเหตุการณ์มานำเสนอ ซึ่งในภาพรวมของสารคดีเรื่องนี้แล้ว
มันค่อนข้างทำตัวเป็นสารคดีสร้างอารมณ์ร่วมกับผู้ชม มากกว่าที่จะหาเนื้อหาสาระในเชิงบรรยาย
ซึ่งในแง่ของความเป็นตัวเองของสารคดีเรื่องนี้ สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้ยอดเยี่ยมมากทีเดียว
Apollo 11 เข้าฉายที่เทศกาลหนัง Sundance ครั้งที่ 35 ในสาย U.S. Documentaries
International Sales : PIECE OF MAGIC
by Sutiwat Samartkit
(16/06/19)
Post a Comment